โพสนี้เป็นโพสแรกที่ผมได้ลงไว้ในบล็อก ThinkingRoom คงจะเป็นโพสเรื่อง "ประสบการณ์จากการสอบนักเรียนไปรษณีย์ครั้งแรกของผม" ซึ่งผมจะมาเล่าประสบการณ์จากการสอบนักเรียนไปรษณีย์ของผมในการสอบครั้งล่าสุดนี้ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับใครบางคนได้ ผมขอบอกก่อนเลยว่าผมเรียนจบมหาวิทยาลัยและก็กำลังทำงานอยู่ที่กรุงเทพ แต่ผมอยากจะกลับไปทำงานที่บ้านเกิดมากกว่า จึงมาลองสอบนักเรียนไปรษณีย์ดู เพราะว่าถ้าได้ทำงานที่ไปรษณีย์ ผมก็สามารถจะกลับมาดูแลครอบครัวได้ และผมก็ไม่ชอบกับการใช้ชีวิตที่มหานครแห่งความวุ่นวายแล้วด้วย ผมจึงตัดสินใจลองไปสมัครสอบดู
สำหรับการเตรียมตัวสอบนั้นคงบอกได้เลยว่าผมก็ไม่มีความพร้อมมากนัก เนื่องจากทำงานอยู่ที่บริษัทและกว่าจะเดินทางกลับถึงหอพักก็หลายทุ่มแล้ว กลับมาถึงหอก็อยู่ในสภาพเหนื่อยล้า เวลาที่จะกลับมาอ่านหนังสือทบทวนเพื่อเตรียมสอบนั้นก็คงทำไม่ได้อย่างเต็มที่และอ่านได้เพียงช่วงเวลาสั้นๆ เพราะต้องรีบนอนเพื่อเตรียมตื่นนอนให้ลุกขึ้นไปทำงานในวันรุ่งขึ้น ผมคงได้อ่านหนังสือมากหน่อยตอนวันเสาร์อาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุดที่หลายคนคงอยากใช้เป็นเวลาสำหรับการพักผ่อน ผมจึงต้องเอาเวลาวันเสาร์อาทิตย์มาบริหารเพื่ออ่านหนังสือและการพักผ่อน (ถ้าเราไม่พักผ่อนบ้าง ร่างกายและจิตใจจะสะสมความเครียดมากเกิน จนเกิดความเครียดและความป่วยไข้ได้ ประสบการณ์ตรงจากผู้เขียน) แถมผมก็ยังเพิ่งเริ่มอ่านหนังสือได้ประมาณ 1 เดือนก่อนสอบเท่านั้นเอง สรุปแล้วก็คือถึงผมจะไม่ค่อยพร้อม แต่เมื่อถึงเวลาผมก็ต้องสู้ครับ อ่านได้เท่าไรก็เอาแค่นั้นครับ เพราะว่ากังวลใจไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา
![]() |
| สนามสอบ Impact Chanllenger |
เมื่อถึงวันก่อนสอบหนึ่งวัน ผมก็ได้เช่าห้องพักที่ป๊อปปูล่าคอนโด ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับอิมแพค เมืองทองธานี เพื่อที่ผมจะได้เดินทางไปสอบอย่างสะดวกสบายและพร้อมสำหรับการสอบมากที่สุด และในที่สุดเมื่อถึงวันสอบ วันที่ 22 มิถุนายน ผมก็ตื่นมาแต่เช้า อาบน้ำ แต่งตัว และรีบลงไปกินข้าวตอนประมาณ 7.00 น. ก็เริ่มจะพบกับผู้เข้าสอบคนอื่นๆ มากมาย จึงรีบกินข้าวและเดินไปยังสนามสอบ อาคารชาแลนเจอร์ ซึ่งเมื่อไปถึงก็พบว่าผู้เข้าสอบและผู้ปกครองมากมายอย่างที่ไม่คิดมาก่อนว่าจะมีเยอะขนาดนี้ (อุตส่าห์มาตั้งแต่เช้า) ผมจึงรีบเข้าไปตรวจสอบชื่อและที่นั่งสอบ ขอบอกเลยนะครับว่าคนเยอะมากแถมแถวเข้าคิวที่จะไปดูที่นั่งก็ยาวมากอีกด้วย ถ้าใครจะไปสอบ แนะนำว่าให้รีบมาดูก่อนไวๆ หลังจากนั้นผมก็ต้องเอาของไปฝาก เนื่องด้วยเจ้าหน้าที่คุมสอบอนุญาตให้ผู้เข้าสอบสามารถเอาปากกา ลิควิก ใบสมัครส่วนที่ 3 บัตรประชาชน เงิน และบัตรฝากของเข้าเท่านั้น อย่างอื่นไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าสตางค์ มือถือ นาฬิกาข้อมือ ก็ไม่อนุญาตให้นำเข้าห้อง หลังจากเคลียร์เรื่องพวกนี้เสร็จก็ถึงเวลาเข้าห้องสอบแล้วล่ะครับ
![]() |
| บรรยากาศการเข้าห้องสอบ (ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เพจ โรงเรียนการไปรษณีย์ - ศิษย์ปัจจุบัน) |
![]() |
| กฏระเบียบการเข้าสอบนักเรียนไปรษณีย์ |
ตอนเข้าห้องสอบนั้น ด่านแรกเลยจะต้องเดินผ่านเครื่องตรวจโลหะและมีการค้นตัว ด่านสองจะมีรุ่นพี่นักเรียนไปรษณีย์มาค่อยตรวจว่าหน้าของผู้เข้าสอบตรงกับใบสมัครและบัตรประจำตัวประชาชนหรือไม่ เมื่อผ่านเข้าไปได้แล้วก็เดินไปที่นั่งสอบ เมื่อมองแบบผ่านก็มีผู้สมัครสอบมาสักประมาณ 70% - 80% ซึ่งก็มากขึ้นเมื่อเทียบกับจำนวนของผู้ที่จะมีสิทธิสอบสัมภาษณ์ เมื่อผู้เข้าสอบพร้อมแล้ว กรรมการสอบจะอธิบายถึงขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆ ผมขอแนะนำว่าควรตั้งใจฟังให้ดี เพราะว่าอาจจะทำผิดได้ สำหรับการสอบภาคแรก ก็มีการสอบวิชาคณิตศาสตร์ ภาษาไทย และคอมพิวเตอร์ วิชาละ 1 ชั่วโมง ซึ่งโดยความคิดเห็นส่วนนั้นคณิตศาสตร์กับคอมพิวเตอร์ ข้อสอบออกไม่ยากนัก ส่วนภาษาไทยก็กลางๆ สังเกตว่าคนจำนวนไม่น้อยก็สอบเสร็จก่อนเวลาที่กำหนด
หลังจากสอบช่วงเช้าเสร็จก็มาถึงช่วงรับประทานอาหารกลางวัน ซึ่งเราสามารถเลือกจะไปกินตามร้านอาหาร กินกับผู้ปกครอง หรือจะซื้ออาหารกล่องที่ทางอิมแพคจัดจำหน่ายไว้ ซึ่งราคาก็ไม่แพงนัก โดยราคาขายจะอยู่ที่ชุดละ 50 บาท มาพร้อมน้ำดื่ม ผมก้คิดว่ามามันก็อร่อยและอื่มดีนะครับ (เสียอย่างเดียว คือไม่มีให้กิน บางคนก็จะยืน ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น หรือว่าบางคนมากันหลายคนก็จับกลุ่มนั่งก็กินก็ได้ ตามอัธยาศัย) สำหรับเวลาพักก็มีเวลาอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง
ตอนสอบภาคบ่าย ก่อนจะเข้าห้องสอบก็มาเริ่มการตรวจแบบเมื่อเช้าอีกรอบ สำหรับการสอบก็จะมีวิชาภาษาอังกฤษและวิชาทัศนคติ ซึ่งวิชาภาษาอังกฤษนั้นโดยส่วนตัวไม่ค่อยถนัด จึงคิดว่ามันก็ยากอยู่พอสมควร ส่วนวิชาทัศนคตินั้นไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี ต้องไปเจอเองครับ 555+ หลังจากสอบเสร็จสิ้นก็จึงเวลาเดินทางกลับ สำหรับผมเองก็ถือว่าทำเต็มที่แล้ว ซึ่งผลการสอบจะเป็นอย่างไรนั้นก็คงต้องอยู่ผลในวันที่ 18 กรกฏาคมต่อไปนะครับ ขอให้ทุกคนโชคดีครับ




ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบ